เคล็ดลับสำหรับการปรุงอาหารด้วย ถั่วเลนทิล พืชตระกูลถั่วที่เก่าแก่ที่สุด

ถั่วเลนทิล

ถั่วเลนทิล มีถิ่นกำเนิดในเอเชียตะวันตกเฉียงใต้และน่าจะเป็นพืชตระกูลถั่วที่เก่าแก่ที่สุด ปัจจุบันถั่วเลนทิลส่วนใหญ่มาจากอินเดีย แคนาดา และตุรกี ถั่วเลนทิลเป็นพืชตระกูลถั่วที่อัดแน่นไปด้วยรสชาติและสารอาหาร แถมยังทำง่าย มีราคาไม่แพงอีกด้วย

ถั่วเลนทิล

ทำความรู้จัก ถั่วเลนทิล พืชตระกูลถั่วที่อัดแน่นไปด้วยรสชาติ และสารอาหาร บอกเลยไม่ควรพลาด

ถั่วเลนทิล (Lentils) เป็นถั่วประเภทหนึ่ง มีหลายสีและหลายขนาด ได้แก่ ดำ เขียว เหลือง แดง และน้ำตาล ถั่วเลนทิลบางชนิดเหมาะสำหรับทำซุป ในขณะที่บางชนิดเหมาะจะเป็นเครื่องเคียงหรือสลัด

  • ถั่วเลนทิลสีน้ำตาลเป็นพันธุ์ที่พบมากที่สุด ราคาไม่แพง และหาได้ง่าย
  • ถั่วเลนทิลสีเขียวคล้ายกับถั่วเลนทิลสีน้ำตาล แต่มีรสเผ็ดเล็กน้อย
มารู้จักถั่วเลนทิล
  • ถั่วเลนทิลสีแดงและสีเหลือง มักใช้ในอาหารตะวันออกกลาง และอาหารอินเดีย รสชาติของถั่วเหล่านี้จะค่อนไปทางหวานและนิ่มเมื่อปรุงสุก นิยมใช้ในซุปและสตู
  • ถั่วเลนทิลอุดมไปด้วยไฟเบอร์ และโปรตีน สามารถรับประทานทดแทนเนื้อสัตว์ได้อย่างดีเยี่ยมสำหรับชาวมังสวิรัติ นอกจากนั้นยังมีกรดโฟลิก โพแทสเซียม และธาตุเหล็กสูง

วิธีปรุงถั่วเลนทิล

  1. ล้างถั่วและร่อนเอาเศษดินเศษหินก้อนเล็กๆ ออก
  2. แช่น้ำเพื่อให้นิ่มประมาณ 20-30 นาที หรืออาจแช่ค้างคืนสำหรับคนที่ชอบให้ถั่วนิ่มมากๆ เหมาะกับการทำซุปหรือสตู
  3. ต้มถั่วด้วยน้ำเปล่าปริมาณเกือบถึงปากหม้อ หรือต้มกับน้ำสต็อกประมาณ 3 ถ้วยต่อถั่วเลนทิล 1 ถ้วย ถั่วเลนทิลจะไม่ดูดซับน้ำส่วนเกิน ดังนั้นเมื่อน้ำเดือดจนล้นหม้อคุณคสรต้องรินน้ำออกบางส่วน และรินออกอีกครั้งเมื่อถั่วสุก และไม่ควรใส่น้ำน้อยจนเกินไปขณะที่ต้ม เพราะถั่วจะโดนความร้อนจนเม็ดแตก
  4. กรณีในน้ำสต็อกต้มถั่วเลนทิลโดยตรงเพื่อทำซุป ควรใช้อัตราส่วน 3:1 โดยใช้น้ำสต็อกเนื้อสัตว์ หรือน้ำซุปผักก็ได้ หลังจากถั่วสุกจึงสามารถปรุงรสด้วยเครื่องเทศ สมุนไพรต่างๆ ตามสูตรอาหารที่ต้องการทำ จากนั้นจึงเติเนื้อสัตว์ และผักโรย ตามลำดับ
ประโยชน์ถั่วเลนทิล

ระยะเวลาที่แนะนำในการต้มถั่วเลนทิลทั้งฝัก

  • ถั่วเลนทิลสีน้ำตาล 20-30 นาที
  • ถั่วเลนทิลสีเขียว 25-35 นาที
  • ถั่วเลนทิลสีแดงและสีเหลือง 15-20 นาที
  • ถั่วเลนทิลสีดำ 20-25 นาที

โดยทั่วไปแล้ว ยิ่งคุณต้มถั่วเลนทิลนานเท่าไหร่ ตัวถั่วก็จะยิ่งนิ่มลงเท่านั้น หากคุณต้องการให้เมนูถั่วเลนทิลมีรสอร่อย ในเมนูสลัดควรต้มเพียงพอสุกแล้วยกลงจากเตา แต่หากทำซุปก็สามารถต้มนานๆ ตามที่ชอบได้เลย เพราะถั่วเลนทิลที่นุ่มจนกลายเป็นครีมจะเพิ่มความเข้มข้นให้น้ำซุป และถ้าเกิดปัญหาต้มถั่วไม่นิ่มสักที (กรณีต้มน้ำเปล่า) สามารถเติมเบกกิ้งโซดาประมาณ 1 ช้อนชาต่อถั่วเลนทิล 1 ถ้วยลงไปได้

อยากรู้ข้อมูลเกี่ยวกับอาหาร ลองเข้ามาชมในเว็บ บล็อคเว็บรวบรวมข้อมูลอาหาร ของเราคุณจะได้รู้ทุกเรื่องของอาหาร และ ประโยชน์ของเกลือ ที่คุณต้องมีติดครัวไว้ใช้ บอกได้เลยว่ามีประโยชน์มากมายจริง ๆ