ขนมช่อม่วงไส้กุ้ง

ช่วงนี้อยู่บ้านว่างๆแบบนี้หาของว่างทานเล่นทำเองดีกว่าค่ะ ขนมช่อม่วงจัดเป็นอาหารว่างของคนไทยตั้งแต่โบราณ มีมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 2 ซึ่งเป็นขนมที่ต้องใช้ความประณีตและความใจเย็นในการจับจีบขนมให้เป็นรูปดอกไม้ เหมือนเป็นการฝึกตัวเองไปด้วยนะ เป็นศิลปะของขนมไทยชาววัง แถมยังมีสีสันน่ารับประทานเป็นที่สุดอีกด้วยนะ มาดูวิธีการทำดีกว่าค่ะ

วิธีทำไส้เค็ม ไส้กุ้ง

วัตถุดิบ

กุ้งสับ 200 กรัม ประมาณ      1/2 ถ้วย

มะพร้าวขูดขาว                        1/4 ถ้วย

หัวหอมหั่นสี่เหลี่ยมเล็ก                 1 ช้อนโต๊ะ

น้ำตาลทราย                     1-1 1/2 ช้อนโต๊ะ

พริกไทย                                 10 เม็ด

เกลือป่น                          1-1 1/2 ช้อนโต๊ะ

กระเทียม                               4-6 กลีบ

รากผักชี                                2-3 ราก

สีผสมอาหาร สีแสด (ไม่ใส่ได้ค่ะ)

วิธีทำ

♦ ล้างกุ้งปอกเปลือกสับละเอียด แล้วแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนหนึ่งนำมาเคล้ากับรากผักชี พริกไทย กระเทียม (ใช้เพียงครึ่งส่วน) มะพร้าวขูดขาวใส่สีแสดนิดหน่อยแทนมันกุ้ง แล้วจึงนำไปผสมกับกุ้งที่เคล้ารากผักชี พริกไทย กระเทียม

♦ ส่วนรากผักชี กระเทียม พริกไทย โขลกอีกครึ่งส่วน นำไปเจียวให้หอม แล้วจึงใส่กุ้งอีกครึ่งหนึ่งที่เหลือ ใส่เกลือ ใส่น้ำตาลทราย โรยผักชีนิดหน่อย

วิธีทำแป้งขนมช่อม่วง

วัตถุดิบ

แป้งข้าวเจ้า          2 ถ้วย

น้ำลอยดอกมะลิ     1 ถ้วยครึ่ง

แป้งมัน               2 ช้อนโต๊ะ

ดอกอัญชัญ      8-10 ดอก

สำหรับวิธีการทำขนมช่อม่วง มีวิธีการทำอยู่ 2 วิธีค่ะ

วิธีแรก

♦ ร่อนแป้ง 2 ครั้งใส่ชามอ่าง ใส่น้ำลอยดอกมะลิทีละน้อย (ถ้าทำใส้คาว ไม่ต้องใช้น้ำลอยดอกมะลิก็ได้ ใช้เป็นน้ำเปล่าแทน) นวดไปเรื่อยๆ ประมาณ 5 นาที พอเข้ากันดีจึงใส่น้ำที่เหลือลงทั้งหมด กรองด้วยผ้าขาวบาง เทลงในกระทะทอง

♦ ยกกระทะขึ้นตั้งไฟกลาง กวนจนแป้งสุกแห้งดีและล่อนจากกระทะเป็นก้อนกลมๆ จึงตักใส่อ่างผสมที่จะนวด พออุ่นจึงนวดให้เหนียวนุ่มประมาณ 5-10 นาที ปั้นแป้งเป็นลูกกลมๆ เท่าๆ กัน เพื่อที่จะได้ขนมอันเท่าๆ กัน เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1-1.25 นิ้ว แล้วแผ่แป้งออกเป็นนรูปกรวยใส่ไส้แล้วปั้นทบครึ่งให้ริมทบกัน บีบแป้งให้ติดสนิท

♦ ใช้แหนบที่ทำขนมจีบ ครีบริมให้เป็นรอยหยักๆ ระบายพลิ้วขึ้น-พลิ้วลง เรียงลงในลังถึง ที่ปูด้วยใบตองไว้แล้ว พรมน้ำให้ทั่วก่อนนำไปนึ่ง จากนั้นนำไปนึ่งในน้ำเดือดประมาณ 3 นาที ยกลงพรมด้วยหัวกะทิ จัดลงจาน

วิธีที่สอง

♦ เมื่อร่อนแป้งข้าวเจ้าและแป้งมันแล้ว ใส่น้ำนวดให้นิ่มมือ จึงใส่น้ำดอกอัญชัญคั้น (วิธีทำน้ำดอกอัญชัญก็ใช้น้ำเดือด 2 ช้อนโต๊ะ ใส่บนดอกอัญชัญแล้วบีบมะนาวสัก 2-3 หยด พอเป็นสีฟ้าแกมม่วง) แล้วนำไปกวน ถ้าชอบสีอื่นก็ใส่ได้แต่ควรจะเป็นสีผสมอาหารที่ปลอดภัย

♦ การปั้นนอกจากวิธีแรกแล้วยังทำได้อีกวิธีหนึ่ง คือ เมื่อใส่ไส้แล้วปั้นให้เป็นลูกกลมๆ แล้วใช้แหนบจับแป้งตรงกลางให้เป็นรูปเกสรดอกไม้ แล้วจับกลีบโดยรอบ จากนั้นก็จับกลีบชั้นที่สอง ที่อยู่ถัดเข้าไปข้างในให้กลีบชั้นในวางสลับสับหว่างกับกลีบชั้นนอก ทำอย่างนี้ไปจนชั้นเกสรชั้นใน

เสร็จแล้วจัดจานด้วยผักสลัด วางด้วยขนมช่อม่วงและโรยด้วยกระเทียมเจียว หอม น่ารับประทานสุดๆไปเลยค่ะ ลองทำแล้วได้ผลยังไงรสชาติแบบไหนอย่าลืมมาแชร์กันด้วยนะคะ